bangkok news
“ใจบัว” เปิดใจน้ำตาซึม หลังโดนสารวัตรลวนลาม
นายสีตรา เบียบังเกิด มูลนิธิทนายความเพื่อประชาชน พร้อมด้วย น.ส. (ใจบัว) แถลงข่าวเปิดประเด็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำอนาจาร
นางสาว “ใจบัว ฮิดดิง” เปิดเผยว่าในคืนที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม เวลาประมาณ 23.00 น. เธอกับเพื่อนอีกประมาณ 5 คนไปงานเลี้ยงวันเกิดรุ่นพี่ที่ร้านอาหารหมูกันใกล้นวลจันทร์
จากนั้นเราจะไปทานอาหารที่ร้านกันต่อ แต่ระหว่างการเดินทาง เพื่อนซี้ของเขาที่อยู่ด้วยกันมา 10 ปี ได้เปลี่ยนแผน ชักชวนให้ไปงานเลี้ยงที่บ้านพี่ใกล้คู้บอน
เมื่อฉันไปถึงบ้านเพื่อนประมาณตี 2 ฉันได้พบกับเจ้าของบ้านและตำรวจ ซึ่งพวกเขาได้ทักทายกันและนั่งดื่มกันตามปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งตรงข้ามเขาขณะดื่มและรับประทานอาหาร ตำรวจกล่าวว่าไม่มีร่องรอยการล่วงละเมิด หรือล้อเล่นในทางที่ผิดประเวณี
จนประมาณตี 4 รู้สึกง่วงจึงขอกลับบ้าน แต่เป็นเพื่อนสนิทของผู้ชายคนหนึ่ง คนที่ชวนฉันมาบ้านนี้ กลับบอกให้นั่งรอบนโซฟาด้วยกันก่อนจะหลับไป ยอมดื่มแต่ยืนยันว่าทุกอย่างมีสติ
จากนั้นประมาณ 9 โมงเช้าของวันที่ 2 สิงหาคม เขาก็ตื่นขึ้นมาพบว่ามีตำรวจนอนอยู่ข้างๆ ดังนั้นเขาจึงวางมือบนหน้าอกของเขา เขาสะดุ้งและร้องไห้เล็กน้อย จนตำรวจที่ก่อเหตุรีบเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร เจ้าของบ้านและเพื่อนสนิทชายของเขานั่งลง รวมทั้งเพื่อนอีกคนที่พาเขาไปนอนใกล้โซฟา เขาจึงคุยกับเพื่อนชายของเขาเพื่อช่วยอย่างใกล้ชิด แต่เพื่อนไม่กล้าช่วยแต่ส่งสัญญาณว่าอยากกลับบ้านก่อนกลับ
นางสาวใจบัว ยังบอกอีกว่า ช่วงแรกหลังเกิดเหตุรู้สึกโทษตัวเองมาตลอดว่าทำไมตอนนั้นถึงไม่ตัดสินใจที่จะกลับบ้าน ทำไมถึงไว้ใจเพื่อนมากเกินไป ซึ่งคนที่อยู่ในบ้านเป็นตำรวจ ไม่คิดว่าตำรวจจะเป็นคนก่อเหตุเอง ซึ่งตนสงสัยเพื่อนชายคนสนิทอาจจะรู้เห็นกับการกระทำของนายตำรวจคนดังกล่าวหรือไม่ หลังจากนี้คงต้องจบความสัมพันธ์กับเพื่อนคนนี้
“ฝากบอกและเตือนภัยกับคนอื่นๆ ที่อาจจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับตัวเอง ไม่ว่าใครหรือเพศไหนทุกคนมีสิทธิ์รักษาสิทธิในร่างกายตัวเอง และไม่อยากให้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ความรู้สึกตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นเล็กน้อย แต่หลังเกิดเหตุต้องไปพบจิตแพทย์ ”
ด้านทนายตั้ม กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็น พันตำรวจตรี สน.ย่านบางพลัด ในข้อหากระทำอนาจารต่อธารกำนัน ซึ่งทางผู้กำกับการ สน.คันนายาว ได้เชิญตัวผู้อยู่ในเหตุการณ์มาให้ปากคำ แต่กลุ่มที่อยู่ในที่เกิดเหตุยังไม่ได้เข้ามาให้ปากคำใดๆ ทั้งเพื่อนชายคนสนิทของใจบัว (คนที่เปลี่ยนแพลนชวนไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ) และเจ้าของบ้าน มีเพียงเพื่อนที่นอนอยู่ข้างๆ มาให้ปากคำเพียงคนเดียว
“ตำรวจได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ถ้าตำรวจออกหมายเรียกครบ 2 ครั้งแล้วยังไม่มาให้ปากคำ ก็จะออกหมายจับต่อไป ขณะนี้ทาง บก.น.7 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยตำรวจที่ก่อเหตุ หลังจากนี้จะให้นางสาวใจบัว เข้าไปให้ปากคำด้วย”