Economy
Cryptocurrency – Ethereum กำลังเปลี่ยนเป็น “The Merge” เพื่อประหยัดพลังงาน 99%
อีเธอเรียม (Ethereum) ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก กำลังจะเปลี่ยนไปใช้การปฏิบัติการแบบใหม่ที่ช่วยลดการใช้พลังงานลงได้ 99.9%
ระบบใหม่นี้มีชื่อเรียกว่า เดอะ เมิร์จ (The Merge) ซึ่งจะช่วยลบคำครหาจากบรรดานักวิจารณ์ที่บอกว่า คริปโตเคอร์เรนซีทั้งหลายทำลายสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบัน อีเธอเรียมใช้พลังงานมากพอกับประเทศขนาดกลางทั้งประเทศ
ส่วนคริปโตเคอร์เรนซีสกุลอื่น ๆ รวมถึง บิตคอยน์ ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุด จะยังคงใช้วิธีการเดิมที่ใช้พลังงานสูง
วิทาลิก บูเทริน ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม กล่าวว่า เดอะ เมิร์จ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างอีเธอเรียม ตั้งแต่มีการเปิดตัวในปี 2014 แต่ต้องเลื่อนออกไปหลายครั้ง เพราะความซับซ้อนทางเทคนิค
มีการเปรียบเทียบการสร้างเดอะ เมิร์จ ว่า เหมือนกับการสร้างระบบฐานรากของตึกระฟ้า ในขณะที่ตึกระฟ้านั้นตั้งอยู่
บล็อกเชนของอีเธอเรียม ไม่เพียงแต่สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลอีเธอเรียมเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนเหรียญอื่น ๆ และผลิตภัณฑ์คริปโตต่าง ๆ อย่าง NFTs รวมมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ
ถ้าเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ก็จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคริปโตเคอร์เรนซี ส่งผลต่อนักลงทุนทั้งรายเล็กรายใหญ่ทั่วโลก แต่ถ้าได้ผลดี ผู้บริโภคก็จะไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงใด ๆ
มันน่าตื่นเต้นมากและเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ ใช่ครับ มีความประหม่าในแง่ที่ว่า สิ่งต่าง ๆ อาจจะไม่ราบรื่น 100% แต่นั่นก็คือการคิดไปก่อน” จัสติน เดรก นักวิจัยมูลนิธิอีเธอเรียม (Ethereum Foundation) กล่าว
เรามีโครงสร้างพื้นฐานเตรียมไว้แล้วตอนนี้ ทำให้เรายังคงเดินหน้าต่อไปได้ ถ้าชิ้นส่วนบางชิ้นของเครือข่ายนี้เสียหายด้วยเหตุผลบางอย่าง”
คอมพิวเตอร์หลายเครื่องกำลังทำงานเพื่อการเปลี่ยนระบบ ใครก็ตามที่ค้นคำว่า เดอะ เมิร์จ (The Merge) ทางกูเกิล ก็จะเห็นการนับถอยหลัง ซึ่งเป็นการทำนายว่า จะแล้วเสร็จในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดี (15 ก.ย.) นี้
เดอะ เมิร์จ คืออะไร
บล็อกเชนของอีเธอเรียมเป็นฐานข้อมูลที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้และมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งจะบันทึกธุรกรรมทุกอย่างที่เกิดขึ้น จนถึงขณะนี้เครือข่ายอาสาสมัครทั่วโลกที่มีคอมพิวเตอร์ทรงพลังได้ช่วยกันรักษา ตรวจสอบ และปรับปรุงข้อมูลของบล็อกเชนอีเธอเรียมให้ทันสมัย โดยพวกเขาจะได้รับเหรียญใหม่เป็นรางวัลตอบแทน กระบวนการนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า “การขุดคริปโต
ระบบนี้มีชื่อเรียกว่า พรูฟ ออฟ เวิร์ก (Proof of Work) และบรรดาบล็อกเชนยอดนิยมที่สุดจำนวนมากรวมถึงอีเธอเรียม, บิตคอยน์ (Bitcoin), โดชคอยน์ (Dogecoin) และไลต์คอยน์ (Litecoin) ก็ใช้ระบบนี้
เดอะ เมิร์จ จะทำให้บล็อกเชนพรูฟ ออฟ เวิร์ก ของอีเธอเรียม รวมเข้ากับระบบที่คล้ายกันที่ชื่อ บีคอน เชน (Beacon Chain) ซึ่งได้ใช้ระบบใหม่ที่ชื่อว่า พรูฟ ออฟ สเตก (Proof of Stake) นานหลายปีแล้ว
พรูฟ ออฟ สเตก ช่วยลดจำนวนคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ในการดูแลบล็อกเชนได้จำนวนมาก บรรดานักขุด จะถูกแทนที่ด้วย “ผู้ตรวจสอบ” (validitors) ที่มีจำนวนน้อยกว่ามาก ผู้ตรวจสอบเหล่านี้จะนำเหรียญอีเธอเรียมของตัวเองมาเดิมพัน ซึ่งพวกเขาจะสูญเสียเหรียญไปโดยอัตโนมัติหาทำข้อผิดพลาดขึ้น
- บิตคอยน์ : เอลซัลวาดอร์เป็นชาติแรกในโลกที่ใช้เงินดิจิทัลชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
- จักรวาลนฤมิต บล็อกเชน เน็ตซีโร การฟอกเขียว และคำอื่น ๆ ที่คนไทยควรรู้ สำหรับปี 2022
- Zipmex: ประมวลเหตุการณ์ ซิปเม็กซ์ระงับการถอนคริปโตฯ ก่อน ก.ล.ต. สั่งเปิดซื้อขาย
นอกจากการลดภาระด้านพลังงานของอีเธอเรียมแล้ว พรูฟ ออฟ สเตก ยังช่วยลดปริมาณเหรียญที่มอบเป็นรางวัลตอบแทนด้วย อีเธอเรียมระบุว่า การทำเช่นนี้ จะส่งผลให้ปริมาณเหรียญโดยรวมที่มีอยู่ลดลง
จะเกิดอะไรขึ้นกับเหล่านักขุดคริปโตในตอนนี้
เดอะ เมิร์จ ทำให้กองทัพอาสาสมัครขุดคริปโตจำนวนมากของอีเธอเรียมต้องคิดหนัก
ข่าว CTN ที่เกี่ยวข้อง:
บิทคับ และ Asiasoft ร่วมมือกันเปิดตัว Cupplay Entertainment สำหรับเกมบล็อคเชน