Crime News
ดูวีดีโอ!!จับหนุ่มช่วยตัวเองบนรถไฟฟ้า BTS ลวนลาม ขโมยสาว อ้างเสพยา
รวบไอ้หื่นยืนช่วยตัวเองบนทางขึ้น BTS ก่อนพยายามข่มขืน-ทำร้ายร่างกายสาวที่เดินผ่าน เหยื่อร้องไร้คนช่วย สารภาพ จำไม่ได้เพราะเมายา
วานนี้ (7 พ.ค.67) เวลาประมาณ 16.00 น พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือง ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสุทัศน์ หรือ อาร์ม อายุ 27 ปี ที่บ้านพัก ย่านถนนท้ายบ้าน ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังก่อเหตุลวนลามหญิงสาว และชิงทรัพย์ ที่บริเวณทางขึ้นรถไฟฟ้า สถานีเคหะสมุทรปราการ ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
นางสาวเอ เล่าว่า มีคนโรคจิตไปยืนช่วยตัวเองอยู่ตรงบันไดเลื่อนทางขึ้น BTS ยืน ตนก็เดินขึ้นไปข้างบนปกติเพราะต้องไปทำงาน พอเห็นก็ตกใจมาก แต่ถอยไม่ทันแล้วจึงทำใจดีสู้เสือเดินต่อไป แต่ว่าผู้ชายคนดังกล่าววิ่งอ้อมมาดักหน้าและลวนลามตน ทั้งต่อยและบังคับให้ถอดกางเกง แต่ไม่ได้ชิงทรัพย์เพียงแค่กระเป๋าตนตกเท่านั้น
ตอนนั้นตนพยายามร้องเสียงดังแต่ก็ไม่มีใครมาช่วย เป็นจังหวะที่มีผู้ชายคนหนึ่งเดินขึ้นบันไดมาพอดี พอโรคจิตคนนั้นเห็นจึงผละตัวออกจากตนไป ตนจึงรีบวิ่งไปหา รปภ.ของ BTS ส่วนกระเป๋าเข้ามาเอาไปทีหลังตอนที่คนเดินมาเยอะแล้ว ในกระเป๋ามีโทรศัพท์มือถือ เงิน กระเป๋าตังค์ พาวเวอร์แบงก์ บัตรประชาชน
ด้าน นายสุทัศน์ ผู้ก่อเหตุ กล่าวปฏิเสธว่าตนไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้ลวนลามและไม่ได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ที่ผู้เสียหายบอกว่าตนไปชกที่ปากกับหลัง ตนจำอะไรไม่ได้ ก่อนหน้านี้ตนเมายาโรเซ่ หรือโคลนาซีแพม ที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท หรือที่เรียกว่า ยาเคนมผง พอกินไป 10 เม็ด ต่อด้วยน้ำกระท่อม ก็เลยจำอะไรไม่ได้
พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือง ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า เหตุเกิดเวลาประมาณ 09.30 น. ผู้เสียหายกำลังเดินขึ้นรถไฟฟ้า BTS ของสถานีเคหะ ขณะที่ผู้ต้องหาได้กำลังยืนในลักษณะสำเร็จความใคร่อยู่บริเวณสะพานลอย ผู้ต้องหาจึงเดินเข้าไปกอดรัดบริเวณคอและทำการชกบนใบหน้าของผู้เสียหาย จนทำให้กระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายตก
หลังจากนั้นตัวผู้ต้องหาได้บอกให้ผู้เสียหายถอดกางเกง ขณะนั้นผู้เสียหายได้ร้องขอความช่วยเหลือ ผู้ต้องหาจึงตกใจจึงรีบหยิบกระเป๋าของผู้เสียหายที่ตกอยู่แล้วรีบวิ่งหนีไป เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 3 ข้อหา คือ กระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย, ทำร้ายร่างกาย และลักทรัพย์
เมื่อตรวจสอบประวัติการต้องโทษ พบมีคดีลักทรัพย์ 2 คดี และเพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากการสอบถามผู้ต้องให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหารวมถึงพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่มี รวมถึงทรัพย์ของผู้เสียหายต่าง ๆ เช่นกระเป๋าสตางค์ และเอกสารต่าง ๆ ได้มาครบถ้วน แต่ขาดเงินสดที่ยังไม่ได้คืน
และจากการสอบผู้ต้องหาได้อ้างว่าได้ทำการเสพสารเสพติดที่เรียกว่ายาโรเช่ ไปเป็นจำนวน 10 เม็ด จึงเกิดอาการมึนเมาจนทำให้ไปก่อเหตุดังกล่าว – Sanook