เชียงราย – การเผาป่าและการเกษตรในเชียงรายและจังหวัดภาคเหนือมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน ทำให้เกิดปัญหาหมอกควันรุนแรง ปัญหาหมอกควันในเชียงรายมักรุนแรงมากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน เนื่องมาจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) สะสมในอากาศ ซึ่งมักสัมพันธ์กับจุดร้อนสูงทุกปี กลุ่มควันขนาดใหญ่ที่ลอยสูงจากประเทศเพื่อนบ้านสะสมอย่างต่อเนื่องเนื่องจากสภาพอากาศปิด มลพิษฝุ่นสูง และปัญหาหมอกควันที่ไม่มีพรมแดน ทำให้ยากต่อการควบคุมร่วมกัน หมอกควันข้ามพรมแดนส่งผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมต่อสุขภาพและชีวิตประจำวันของประชาชน รวมถึงการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อมในลุ่มน้ำโขง เนื่องจากผลกระทบเกิดขึ้นข้ามพรมแดน ประเทศสมาชิกอาเซียนจึงได้กำหนดเป้าหมายร่วมกันในการลดหมอกควันและปลอดควัน โครงการอบรมการทำปุ๋ยหมักเชียงรายเพื่อหยุดการเผา เชียงรายซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องได้เข้าร่วมโครงการลดหมอกควันข้ามพรมแดน ต้นปี 2567 จังหวัดเชียงรายและภาคส่วนต่างๆ ภายใต้โครงการพัฒนาความร่วมมือไทย-ลาว-เมียนมาร์ จะขับเคลื่อนการบริหารจัดการและลดมลพิษหมอกควันข้ามพรมแดน โดยมีสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) เป็นผู้สนับสนุน สานต่อนโยบายเชียงราย เชื่อมโยงกลไกคณะกรรมการรักษาสันติภาพชายแดนไทย-ลาว ระหว่างจังหวัดเชียงรายและจังหวัดบ่อแก้ว เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ส่งเสริมให้เมืองคู่ขนานดำเนินกิจกรรมและสร้างความร่วมมือที่ดีระหว่างกัน พื้นที่นำร่อง 1 ใน 2 แห่ง คือ พื้นที่ชายแดนผาตั้ง ตั้งอยู่บนเทือกเขาดอยผ้าห่มปก ตามแนวชายแดนไทย-ลาว ในฤดูแล้ง การเผาป่าต่อเนื่องตามแนวชายแดนจะแผ่ขยายเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้เกิดหมอกควันที่ควบคุมและปราบปรามได้ยาก ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพื้นที่ป่าและมักเกิดขึ้นในพื้นที่เดียวกัน อีกพื้นที่หนึ่ง คือ บ้านปงกลางน้ำ หมู่ที่ 12 ตำบลวาวีใหญ่ อำเภอแม่สรวย เป็นพื้นที่ภูเขาเชิงเขา อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ลาวฝั่งซ้ายของแม่น้ำ ในอดีตพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีจุดไฟเผามากที่สุดของตำบล … Continue reading เชียงรายร่วมโครงการลดหมอกควันข้ามพรมแดน