Chiang Rai News
ชาวแม่สาย เชียงราย ตัดสินใจทิ้งชั้น 1 บ้าน เพราะดินโคลน
ชาวเชียงราย ตัดสินใจสละบ้านชั้นหนึ่ง หวังป้องท่วมซ้ำ-ลดทุนซ่อม ด้านแม่ค้าสุดระทม สต๊อกของเสียหายอื้อ
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการฟื้นฟูน้ำท่วมพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ยังคงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยทางกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหม ยังคงมีการระดมเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนและทหารจากทั่วประเทศจำนวนกว่า 2,000 นาย พร้อมเครื่องจักรเข้าทำการขุดตักดินออกจากถนนและบัานเรือนของประชาชน ในพื้นที่ชุมชนเกาะทรายและชุมชนไม้ลุงขนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชาวบ้านและผู้ประกอบการร้านค้าต่างออกมาทำความสะอาดบ้านเรือนของตนเองเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ทางหน่วยงานภาครัฐจะมีการตั้งเป้าในช่วงสิ้นเดือนตุลาคมนี้จะทำความสะอาดบ้านเรือนให้ประชาชนผู้ประสบภัยสามารถเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านได้ทั้งหมด แต่จากการสำรวจก็ยังพบว่ายังมีหลายครอบครัวโดยเฉพาะที่ชุมชนเกาะทรายที่ยังมีดินโคลนทับถมภายในบ้านและบริเวณทางเข้าบ้านอย่างหนาแน่น ยังทำให้ไม่สามารถเข้าไปอาศัยในบ้านได้ ขณะที่หลายครอบครัวตัดสินใจที่จะสละบ้านชั้นล่างไม่มีการเอาดินที่ถูกทับถมออก โดยนอกจากจะลดเวลาในการฟื้นฟูยังจะให้เป็นการป้องกันน้ำท่วมในคราวต่อไป
นายบุญมี วรรณโสภา อายุ 55 ปี ชาวชุมชนเกาะทรายกล่าวว่า บ้านของตนเป็นบ้านสองชั้น ซึ่งปกติก็ถูกน้ำท่วมทุกปีแต่ไม่มากนัก มากสุดก็เพียงแค่หัวเข่า แต่ปีนี้น้ำท่วมสูงถึงชั้นสองของบ้านทำให้ชั้นล่างมีดินโคลนไหลมาทับถมจนขึ้นถึงเกือบคานชั้นสองของบ้าน จึงตัดสินใจไม่นำดินออกเพราะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายสูง จึงนำดินมาถมในส่วนที่ว่างเพื่อให้แข็ง แล้วจะมีการปรับปรุงบ้านชั้นบนเป็นที่อยู่อาศัยเพียงชั้นเดียว ซึ่งนอกจากจะลดค่าใช้จ่าย ยังลดเวลาในการฟื้นฟู อีกทั้งยังเป็นการป้องกันน้ำท่วมในครั้งต่อๆ ไป หากน้ำท่วมไม่มากก็เชื่อว่าบ้านตนจะไม่ท่วมอีก แต่ตนก็สละข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ชั้นล่างทั้งทีวี ตู้เย็นและเครื่องครัว รวมทั้งชุดนอนอยู่ใต้ดินทั้งหมด ซึ่งก็อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือในส่วนนี้ด้วย
ส่วนที่บริเวณตลาดสายลมจอย แม้จะมีทางหน่วยงานภาครัฐหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ได้ระดมเครื่องจักรและกำลังเข้าฟื้นฟูพื้นที่นานกว่า 1 เดือน แต่ด้วยดินโคลนที่มีจำนวนมหาศาลและมีน้ำท่วมซ้ำและน้ำซึม ทำให้ร้านค้าหลายแห่งยังคงมีดินโคลนทับถมอยู่ภายในร้าน และในบ้านเรือน ตลอดจนบ้านเช่า ซึ่งทางผู้ประกอบการอยากให้หน่วยงานภาครัฐเร่งช่วยเหลือให้สามารถกลับมาเปิดจำหน่ายสินค้าได้โดยเร็ว
นางแสงจันดี อายุ 50 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้า ร้านของตนเอง และบริเวณโดยรอบหอพักยังคงเต็มไปด้วยโคลน บางห้องยังเต็มไปด้วยโคลนสูงกว่า 1 เมตร เธอเล่าว่าในห้องยังมีมอเตอร์ไซค์และเสื้อผ้าที่เก็บไว้ขายอยู่ ซึ่งผ่านมาเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว ทางร้านยังไม่ได้เคลียร์ออก เธอเล่าว่าก่อนหน้านี้ ร้านค้าต่างๆ ได้เตรียมรับมือน้ำท่วมโดยย้ายสินค้าไปไว้สูง 2 เมตร แต่กลับท่วมถึงชั้น 2 ของบ้าน ทำให้สินค้าเสียหายหมด บางส่วนถูกกระแสน้ำพัดหายไป ทำให้พ่อค้าแม่ค้าขาดทุนคนละ 2-3 แสนบาท
หนี้ที่กู้มาลงทุนยังไม่ได้รับการชำระคืน อาชีพหลักของเธอคือการขายสินค้าเท่านั้น ตอนนี้ร้านของเธอยังจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้ไม่สามารถเปิดร้านได้ เธออยากให้รัฐบาลเคลียร์พื้นที่ให้เร็วที่สุด เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถเปิดร้านได้โดยเร็วที่สุด เพื่อที่พวกเขาจะได้มีรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัวและชำระหนี้ได้ ตอนนี้เธอไม่ทราบว่าพวกเขาจะเปิดร้านได้เมื่อใด เพราะนอกจากการเคลียร์โคลนแล้ว พวกเขายังต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมและปรับปรุงร้านอีกด้วย เพราะร้านค้าเกือบทุกร้านได้รับความเสียหาย
ชายเชียงราย 2 ราย ถูกยิงเสียชีวิตกลางถนน ตำรวจเตรียมจับกุมคนร้าย
“เที่ยวครึ่งเหนือ” การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แจกเงินคนละ 400 บาท กระตุ้นการท่องเที่ยว