Chiang Rai News
การห้ามใช้น้ำมันของไทยสร้างความเสียหายให้กับเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์
ราคาน้ำมันในเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พุ่งสูงขึ้นเป็นสองเท่า หลังจากที่ไทยจำกัดการส่งออกน้ำมันและไฟฟ้า มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อลดเครือข่ายหลอกลวงที่ดำเนินการในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
การจำกัดนี้ทำให้ปริมาณน้ำมันลดลงอย่างหนัก ส่งผลให้ชาวบ้านต้องเผชิญกับราคาน้ำมันที่แพงขึ้นอย่างมาก การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันกะทันหันนี้สร้างความลำบากให้กับประชาชนที่จำเป็นต้องใช้น้ำมันในชีวิตประจำวัน
แม้ว่าในวันพฤหัสบดีจะเกิดการตัดไฟในพื้นที่ แต่เมืองท่าขี้เหล็กยังคงได้รับกระแสไฟฟ้าจากประเทศลาว อย่างไรก็ตาม การหยุดส่งออกน้ำมันจากไทยยังคงสร้างปัญหาให้กับชุมชนและธุรกิจในพื้นที่
ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย รถบรรทุกน้ำมันหลายสิบคันต้องจอดรอในพื้นที่พักรถของกรมทางหลวง ไม่สามารถข้ามแดนไปยังท่าขี้เหล็กได้ คนขับรถจำนวนมากที่ได้รับค่าแรงตามเที่ยว ต้องติดค้างอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน บางคนรอนานถึงสามวันโดยไม่มีงานทำ พวกเขาแสดงความไม่พอใจและไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ในเมียนมา ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสูงขึ้นประมาณ 50-80 บาทต่อลิตร ทำให้เกิดคิวรอยาวที่ปั๊มน้ำมัน หลายปั๊มเริ่มจำกัดการเติมน้ำมันสำหรับรถยนต์เท่านั้น และไม่อนุญาตให้ลูกค้าเติมน้ำมันในภาชนะ
ชาวบ้านคนหนึ่งเล่าว่าการขึ้นราคาน้ำมันมีผลกระทบต่อชีวิตอย่างมาก หลายคนต้องพึ่งพาน้ำมันเพื่อการทำงานและเครื่องปั่นไฟฟ้า แม้การตัดไฟจากไทยจะไม่ทำให้บ้านเรือนมืดสนิท แต่บางคนก็เริ่มซื้อเครื่องปั่นไฟเพื่อความปลอดภัย
แหล่งข่าวในท่าขี้เหล็กเผยว่า ก่อนหน้านี้ไฟฟ้าในเมืองประมาณ 75% มาจากไทย คิดเป็นมูลค่าเดือนละประมาณ 40 ล้านบาท ส่วนอีก 25% มาจากลาว
อย่างไรก็ตาม ความพยายามล่าสุดของไทยในการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้เมียนมาต้องปรับแหล่งจ่ายไฟฟ้า ปัจจุบันประมาณ 70% ของไฟฟ้าในท่าขี้เหล็กมาจากลาวผ่านแม่น้ำโขง ลดผลกระทบจากการตัดไฟของไทย
ไทยหยุดการส่งไฟฟ้าและน้ำมันไปยังพื้นที่ชายแดนเมียนมา เพื่อกดดันให้แก๊งหลอกลวงที่ดำเนินการอยู่ในภูมิภาคนี้หยุดกิจกรรมผิดกฎหมาย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้นำในมาตรการนี้ โดยให้เหตุผลว่าการจ่ายไฟฟ้าถูกนำไปใช้อย่างผิดวิธี ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของไทย การหยุดส่งน้ำมันยังเป็นการกดดันรัฐบาลเมียนมาให้จัดการกับปัญหานี้
“แม้พวกเขาอาจมีปัญหาเรื่องพลังงาน แต่ไทยไม่สามารถยอมให้ถูกมองว่าสนับสนุนกิจกรรมผิดกฎหมายได้” นายอนุทินกล่าว “พวกเขาอาจหาวิธีอื่นหรือผลิตไฟฟ้าเองได้”
ชาวเมืองท่าขี้เหล็กรายหนึ่งเล่าว่าไฟฟ้าดับเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้าวันพุธ ในขณะเดียวกัน ธุรกิจที่เป็นของชาวจีน รวมถึงศูนย์หลอกลวงต่างๆ ได้เปลี่ยนมาใช้เครื่องปั่นไฟ
“ในสองวันที่ผ่านมา เครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่ถูกนำเข้ามาในเมือง ตอนนี้เครื่องเหล่านี้เริ่มทำงาน และศูนย์หลอกลวงยังคงดำเนินการอยู่” ชาวบ้านคนดังกล่าวให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ โดยขอไม่เปิดเผยชื่อเพราะเรื่องนี้อ่อนไหว “ในขณะเดียวกัน ธุรกิจที่เป็นของคนท้องถิ่นต้องปิดตัวลง ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องลำบาก”
การหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา มีรายงานว่าบีบบังคับคนหลายแสนให้ทำกิจกรรมออนไลน์ผิดกฎหมาย สร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี ตามรายงานของสหประชาชาติในปี 2566
ไทยตัดสินใจดำเนินการเด็ดขาดนี้ หลังจากได้รับคำร้องขอซ้ำๆ จากจีนให้ตัดทรัพยากรที่ถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรรมที่หลอกลวงพลเมืองจีน