เจ้าหน้าที่นาวิกโยธินตามล่าผู้ลักลอบขนหอยยักษ์

เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 ร่วมกับ นายประเสริฐ พิทักษ์กรณ์ นายก อบต แสมสาร ,นาย ณัฐพงษ์ พิทักษ์กรณ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.แสมสาร , กลุ่มเครือ ข่ายฉลามขาว และเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ลงพื้นที่เป้าหมายหลังได้รับแจ้งข่าวว่ามีผู้ลักลอบเก็บหอยมือเสือซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองในเขตทะเลน้ำตื้น บริเวณชายทะเลหน้า “รีสอร์ทบ้านริมทะเล” ม.1 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยพบผู้กระทำผิด 2 ราย เป็นชายและหญิงไม่ทราบชื่อ พร้อมของกลางเป็นเนื้อหอยมือเสือ จำนวนกว่า 10 ตัว และเปลือกหอยจำนวนหนึ่ง

โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบนายฉัตรพิสุทธ์ ชัยรัตน์ อายุ 50 ปี เจ้าของรีสอร์ท ซึ่งนำซากเปลือยหอยมือเสือขนาดใหญ่จำนวน 4 ตัวที่ถูกชำแหละเนื้อแล้ว และหอยมือเสือที่ยังมีเนื้ออยู่อีก 1 ตัว พร้อมทั้งคลิปวีดีโอที่บันทึกไว้ได้ขณะพบตัวผู้กระทำผิดกำลังชำแหละเนื้อหอยมือเสือมาส่งมอบให้เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีและร้องทุกข์กล่าวโทษ

โดยนายฉัตรพิสุทธ์ ให้การว่าช่วงเช้าวันนี้ขณะที่น้ำกำลังลงพบชายหญิง 2 คนอายุประมาณ 30-35 ปี พากันลงไปเดินในพื้นที่แนวปะการังหน้าอ่าวแสมสารห่างจากชายฝั่งประมาณ 80 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ๆมีการร่วม กันอนุรักษ์จากชาวบ้านและกลุ่มอนุรักษ์ต่างๆเนื่องจากเป็นแนวปะการังที่มีความสวยงามที่ยังมีความสมบูรณ์ โดยเห็นว่าทั้ง 2 กำลังทำการขุดและทุบหอยมือเสือขนาดใหญ่จำนวนกว่า 10 ตัวซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครอง เพื่อนำไปกินและจำหน่ายจึงได้เข้าไปว่ากล่าวตักเตือน จากนั้นทั้ง 2 ได้ทิ้งกองเปลือกหอยไว้และขนเนื้อหอยใส่ถุงเดินขึ้นฝั่งหลบหนีไป จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องไว้ พร้อมนำหลักฐานเข้าแจ้งความยัง สภ.สัตหีบ เพื่อเร่งสืบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้ โดยดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดตามมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง มีบทลงโทษตาม ม.89 ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (ตามบัญชีแนบท้าย สัตว์คุ้มครองชนิดสัตว์น้ำไม่มีกระดูกสันหลังลำดับที่ 11 ) ต่อไป…