Chiang Rai News
เชียงรายตร.เปิดยุทธการทลายแก๊งเงินกู้ดอกโหดออนไลน์
เชียงราย – พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ (ศปน.ตร.) แถลงผลปฏิบัติการ “ข้ามฟ้า ล่า App เงินกู้” บุกจับแก๊งนายทุนเงินกู้นอกระบบ หนีขึ้นดอย ตั้งฐานทวงหนี้ริมตะเข็บชายแดน ยึดของกลางอีกเพียบ แถมยังพบคัมภีร์ทวงหนี้ รวมทั้งพนักงานทวงหนี้ From Home กว่าร้อยชีวิต
พล.ต.อ..ปิยะ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทำให้ได้รับความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง บางส่วนหันไปพึ่งพาการกู้เงินจากนายทุนเงินกู้นอกระบบ ซึ่งมีการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา การทวงถามหนี้โดยผิดกฎหมาย อันเป็นการซ้ำเดิมประชาชน ทำให้เกิดปัญหาทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และอาชญากรรมต่างๆ ตามมา รัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ผบ.ตร. จึงได้มอบหมายให้ ศปน.ตร. เร่งดำเนินการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับที่ผ่านมาพบว่า แนวโน้มการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบในปัจจุบัน เปลี่ยนจากแก๊งหมวกกันน็อก หรือกู้ยืมเงินโดยยึดโฉนดที่ดินเป็นหลักประกัน เปลี่ยนเป็นการกระทำความผิดทางออนไลน์ หรือ แอปพลิเคชันผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้เข้าถึงคนจำนวนมาก ซึ่งจะมีนายทุนชาวต่างชาติเข้ามากระทำความผิดในประเทศไทย ในลักษณะ ขบวนการ ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวสร้างความสูญเสียให้กับระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามการกระทำความผิดในลักษณะแอปพลิเคชันเงินกู้ผิดกฎหมายดังกล่าว มักจะมีที่ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่จากการกดดันอย่างหนักและเร่งจับกุมปราบปรามของ ศปน.ตร. ในช่วงปลายปี 2563 ต่อเนื่องต้นปี 2564 พบว่ากลุ่มคนร้ายปรับเปลี่ยนรูปแบบการกระทำความผิด โดยย้ายที่ตั้งไปอยู่ตามแนวชายแดน และจากการรวมกลุ่มเปิดบริษัททวงหนี้ในรูปแบบคอลเซ็นเตอร์ มีพนักงานจำนวนมาก เปลี่ยนเป็นให้พนักงานโทรศัพท์ทวงหนี้จากบ้านในลักษณะ “ทวงหนี้ FROM HOME” เพื่อให้ตรวจพบได้ยาก
ต่อมาได้มีการสืบสวนพบว่า แอปพลิเคชัน คือ “Consumer Finance” และ “Mini Loan” ดำเนินงานโดย บริษัท ไทย วาลี จำกัด มีการประกอบธุรกิจให้กู้ยืมเงินโดยผิดกฎหมาย เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และมีการทวงหนี้โดยผิดกฎหมาย ได้ย้ายที่อยู่เพื่อหลบหนีการจับกุมมาหลายครั้ง โดยครั้งสุดท้ายหลบมาเช่าบ้านพักเป็นฐานสำหรับติดตามทวงถามหนี้และยังใช้เป็นที่พักพนักงาน อยู่ที่ ม.19 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
ทั้งนี้นายทุนจะแยกไปสั่งการและบริหารงานอยู่บนดอยแม่สลอง ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อตะเข็บชายแดน เพื่อสะดวกต่อการหลบหนี และยากต่อการติดตามจับกุม จากนั้นวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา ชุด ศปน.ตร. นำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงรายเข้าตรวจค้นสถานที่ทั้ง 2 แห่ง จับกุมผู้ต้องหา 10 คน และจับกุมพนักงานทวงหนี้ของบริษัทฯ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้อีก 6 คน พร้อมยึดของกลางได้จำนวนมาก จึงแจ้งข้อกล่าวหา ประกอบด้วย 1.ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ใด้รับอนุญาต 2.ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด 3.ร่วมกันกระทำการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น
สำหรับพฤติการณ์ในการกระทำความผิด จากการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้กระทำความผิดดังกล่าวจริง โดยมีการปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ ปัจจุบันมีฐานลูกหนี้ทั่วประเทศกว่า 3,500 คน ซึ่งบริษัทยังมีการกระทำความผิดเชื่อมโยง 21 แอปพลิเคชัน ประกอบด้วย Consumer Finance, Loanmaket, Taka THB, cash borrow, Moobin loan, เงินกู้ดีที่สุด, Innovat cash, Loan studio, same dayloan, money loan, ใช้ตังค์, cash ready, Mini Loan, 365 loans, TiK Tak, SpeedLoan, Big money, We cash, หมูบิน เงินกู้, loan studio, และ Full wallet โดยบริษัทมีพนักงานทวงหนี้กว่า 100 คน
นอกจากนี้ในส่วนของรูปแบบการทำงาน เมื่อรับพนักงานทวงหนี้เข้ามาจะทำการอบรมพร้อมแจกเอกสารวิธีทวงหนี้ให้พนักงาน จากนั้นจะให้แยกย้ายไปทำงานทวงหนี้แบบ Work From Home เพื่อไม่ให้มีพนักงานรวมกันอยู่จำนวนมากเป็นที่ผิดสังเกต โดยในเอกสารจะระบุวิธีการทวงหนี้ต่างๆ เช่น การพูดกดดันทำอย่างไร ควรโทรเวลาไหน ถ้าลูกหนี้ปิดเครื่องหรือบล็อกเบอร์ให้โทรทวงกับคนใกล้ชิด รวมไปถึงการส่งข้อความทวงหนี้ หรือข่มขู่ในรูปแบบต่างๆ ลักษณะเป็นเหมือนคู่มือในการปฏิบัติงาน ขณะนี้ได้อายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 60 บัญชี พบยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 200 ล้านบาท ขณะนี้สืบสวนจนทราบรายชื่อพนักงานทวงหนี้ WORK FROM HOME หมดทุกคนแล้ว อยู่ระหว่างขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องต่อไป