Connect with us

Crime News

ตำรวจสอบปากคำแม่ที่ฆ่าลูก “ทารกแรกเกิด” ของเธอ

Published

on

ตำรวจสอบปากคำแม่ที่ฆ่าลูก "ทารกแรกเกิด" ของเธอ
ตำรวจสอบปากคำแม่ที่ฆ่าลูก "ทารกแรกเกิด" ของเธอ

ตำรวจ สภ.ประเวศ เผยกำลังสอบสวนแม่คนหนึ่งที่ฆ่า “ทารกแรกเกิด” ของเธอ ทิ้งถังขยะในห้องน้ำสาธารณะ หญิงสาวยังอยู่ในสภาพย่ำแย่ ฉันเพิ่งรู้ว่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อนว่าฉันท้อง แต่ฉันไม่กล้าบอกแฟนและสมาชิกในครอบครัว

จากกรณีช่วงสายของวันที่ 5 พ.ค.2567 ตำรวจ สน.ประเวศ รับแจ้งเหตุ พบร่างเด็กทารกแรกเกิดเพศชายถูกทิ้งในถังขยะภายในห้องน้ำสาธารณะแบบหยอดเหรียญ ซ.กรุงเทพกรีฑา 8 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ โดยสภาพร่างของทารกอวัยวะภายนอกครบถ้วน สายสะดือยังติดอยู่ ที่ปากและจมูกถูกอุดไว้ด้วยกระดาษชำระ คาดว่าทารกเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 – 10 ชั่วโมง ซึ่งภายหลังการเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวแม่เด็ก คือ น.ส.น้ำผึ้ง อายุ 19 ปี สัญชาติลาว มาดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

โดยวันนี้ (6 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.55 น. ตำรวจ สน.ประเวศ ได้ควบคุมตัว น.ส.น้ำผึ้ง ออกมาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งในระหว่างการควบคุมตัวนั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามว่าข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสอบถามถึงมูลเหตุจูงใจในการใช้ทิชชู่ยัดปากและจมูกเด็ก แต่ น.ส.น้ำผึ้ง ไม่ตอบคำถามใด ๆ กับสื่อมวลชน ในขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้สังเกตเห็นว่า บริเวณชายเสื้อด้านหลังตรงกับตำแหน่งสะโพก มีร่องรอยคราบเลือดปรากฏอยู่ที่เสื้อของผู้ต้องหา

ด้านพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ในวันนี้จะนำตัวผู้ต้องหาคือ น.ส.น้ำผึ้ง มาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อประกอบสำนวนในคดีอย่างละเอียด หลังจากที่เมื่อคืนนี้ได้มีการสอบปากคำเบื้องต้นไปแล้ว ทั้งนี้ น.ส.น้ำผึ้ง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าเด็กหลุดออกมาเองระหว่างเข้าห้องน้ำ ซึ่งเด็กทารกยังมีสัญญาณชีพมีการขยับแขนขาและส่งเสียงร้อง แต่ด้วยความที่แฟนหนุ่มมาเคาะเรียก ตนเลยตกใจและกลัวว่าแฟนหนุ่มจะรู้ว่าตัวเองมีลูก เลยนำทิชชู่มายัดปากและจมูกและวางไว้ในถังขยะก่อนจะกลับบ้านไป ซึ่งจะต้องมีการสอบประเด็นเพิ่มว่า สาเหตุที่ใช้ทิชชู่ยัดปากและจมูกเด็กน้อยนั้นเป็นเพราะอะไร

ต่อมาในช่วงบ่าย แฟนหนุ่มชาวลาววัย 23 ปีของ น.ส.น้ำผึ้ง ได้เดินทางมายัง สน.ประเวศ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน พร้อมเปิดเผยว่า ตนคบหากับนางสาวน้ำผึ้งได้ประมาณ 8 เดือน ตั้งแต่อยู่ด้วยกันที่ประเทศลาว หลังจากนั้นประมาณ 1-2 เดือนผ่านไป ตนกับนางสาวน้ำผึ้งก็เลิกลากัน และแยกกันอยู่ เนื่องจากมีปัญหาผิดใจตามประสาคู่รัก แต่ยังคงมีการติดต่อกันเรื่อยๆ จนตัดสินใจกลับมาคบหากันอีกครั้งเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาและพักอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น ตนกับแฟนสาวไม่เคยพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของการมีลูกเลยและตนไม่เคยเห็นว่าแฟนของตนจะมีอาการลักษณะของคนตั้งครรภ์ เช่น แพ้ท้อง หรือพูดคุยถามลองใจว่า หากตั้งครรภ์มีลูกขึ้นมาจะดูแลได้ไหม แต่ยอมรับว่าตนเคยสอบถามแฟนเพราะสังเกตเห็นว่าอ้วนขึ้น แต่แฟนอ้างว่าเป็นเพราะกินเยอะ

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมนั้น ตนสังเกตเห็นว่าแฟนของตนเข้าห้องน้ำนานผิดปกติถึง 3 ครั้ง ตนจึงเดินไปตาม ก่อนมาทราบภายหลังว่าเกิดเหตุสลดดังกล่าว ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นเลย และแฟนสาวไม่เคยบอกตนด้วยซ้ำว่าเธอตั้งครรภ์ แม้กระทั่งพ่อแม่ของแฟนสาวก็ยังไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน หากย้อนเวลากลับไป ก็อยากให้แฟนสาวพูดความจริง บอกมาเลยว่าเธอตั้งครรภ์ ถึงแม้ว่าตนไม่มั่นใจว่าเด็กทารกที่เสียชีวิตจะเป็นลูกของตนหรือไม่ แต่ตนยินดีที่จะรับเลี้ยงเหมือนลูกของตัวเอง แต่ตนก็เข้าใจแฟนสาวและให้อภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญแฟนหนุ่มเข้าไปคุยกับผู้ต้องหา โดยทีมข่าวสังเกตเห็นว่า ทั้งคู่ต่างนั่งมองหน้าและพูดคุยซึ่งกันและกันในลักษณะของการเปิดใจ โดยสังเกตเห็นสีหน้าของทั้งคู่ต่างเป็นห่วงซึ่งกันและกันอย่างเห็นได้ชัด

ด้านข้อมูลล่าสุดจากพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เผยว่า น.ส.น้ำผึ้ง ยังคงอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่และยังคงเสียใจกับเหตุการณ์ร้ายๆ ที่ผ่านมา โดยเพิ่งมารับรู้ไม่กี่เดือนว่าตั้งครรภ์ แต่ไม่กล้าบอกแฟนและคนในครอบครัว ส่วนเรื่องผลการชันสูตรพลิกศพและผลการตรวจว่าเด็กทารกเป็นลูกของใคร อยู่ในระหว่างการรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์.- MCOT

ตร.ออกหมายจับเพิ่ม 3 คน เร่งล่า “จ่าแจ็ค”

https://tna.mcot.net/crime-1360734

Continue Reading
Advertisement

จิตอาสาที่ซอยด็อก

Soi Dog

คนกำลังอ่านหนังสือ